วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

หุบเขาโอวาคุดานิ





หุบเขาโอวาคุดานิ

ทัวร์ญี่ปุ่น หุบเขาโอวาคุดานิ  โตเกียว (Owakudani) 大涌谷      หุบเขาโอวาคุดานิ  (Owakudani) 大涌谷มีชื่อในภาษาไทยว่า “หุบเขานรก”!!! หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมจึงเรียกว่าหุบเขานรกทั้งๆที่ชื่อในภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่ได้มีความหมายเกี่ยวกับนรกเลย เราจะบอกให้ว่าชื่อเดิมของโอวาคุดานินั้นคือ Ochigoku (大地獄) หรือแปลว่าหุบเขานรกนั่นเอง!!! โอวาคุดานินั้นตั้งอยู่ตรงปากปล่องภูเขาไฟโบราณที่ชื่อว่าฮาโกเน่ (Hakone Kasan : 箱根火山) แม้จะไม่มีการระเบิดอีกแล้วแต่ใต้พื้นผิวยังคงมีความร้อนอยู่จึงทำให้น้ำที่อยู่ข้างใต้พวยพุ่งหรือระเหยกลายเป็นไอน้ำออกมาข้างบนตลอดเวลา ประกอบกับที่นี่มีแร่กำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก ทำให้ไอน้ำที่พวยพุ่งออกมานั้นมีกลิ่นกำมะถันปนอยู่
        แม้ว่ากลิ่นกำมะถันจะแรงและไม่ถูกกับจมูกมนุษย์อย่างเราๆ แต่กลับมีคุณค่าต่อสุขภาพอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งจะเห็นได้จากท่อส่งน้ำจากบ่อต่างๆออกไปยังออนเซนในบริเวณใกล้ๆนั้นอยู่หลายที่ เพื่อให้ลูกค้าของแต่ละสถานที่ใช้สำหรับแช่ตัวเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและรักษาโรคภัยต่างๆ นอกจากนี้โอวาคุดานิยังมีตำนานไข่ดำที่เกิดจากการนำไข่ดิบมาต้มในบ่อน้ำร้อนที่อยู่บนเขาเมื่อสุกแล้วจะได้ไข่สีดำมะเมื่อม ว่ากันว่าทานไป 1 ใบจะอายุยืนขึ้นอีก 7 ปี 
       
ทัวร์ญี่ปุ่น หุบเขาโอวาคุดานิ  โตเกียว (Owakudani) 大涌谷
              โดยความเชื่อนั้นมาจากในสมัยญี่ปุ่นโบราณ มีชายชราคนหนึ่งป่วยหนัก หมอบอกว่าไม่สามารถจะรักษาให้หายได้แล้ว จะตายในไม่ช้า ชายชราคนนี้มีลูกคนหนึ่ง ด้วยความที่เป็นลูกกตัญญู ก็พยายามหาทางช่วยพ่อให้ได้ มีคนบอกว่าที่หุบเขาโอวาคุดานิ มียาวิเศษน่าจะสามารถรักษาพ่อให้หายได้  เมื่อได้ยินดังนั้นลูกชายคนนี้ก็ดังด้นเดินทางไปยัง หุบเขาโอวาคุกานิทันที และเมื่อไปถึงก็ได้เจอกับชายชราคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ที่บ่อกำมะถัน ลูกกตัญญูเลยเข้าไปทัก ด้วยความตกใจทำให้ชายชราทำของบางอย่างตกลงไปในบ่อกำมะถันนั้น (เดาว่าต้องเป็นไข่แน่ๆ) และได้ถามว่า “ที่นี่มียาวิเศษไปช่วยพ่อได้หรือไม่” ชายชราก็ชี้ไปที่บ่อกำมะถันนั่นเอง เมื่อได้ยินดังนั้น ลูกกตัญญูก็กระโดดลงไปงมของในบ่อดังกล่าว และได้ ไข่มา 1 ใบ ซึ่งเปลือกไข่เป็นสีดำ จึงคิดว่าเป็นไข่วิเศษ และได้นำกลับไปให้พ่อได้กิน หลังจากที่พ่อได้กินไข่ดำแล้ว ทำให้พ่อที่ป่วยหนักกำลังจะตาย มีอายุยืนยาวมาได้อีก 7 ปี และนั่นเองทำให้เป็นความเชื่อที่สืบต่อกัน ต่อๆ กันมา



        ส่วนไข่ดำนั้นดำแต่เปลือกนอกเท่านั้น เนื้อข้างในยังขาวใสเหมือนไข่ต้มทั่วไป สำหรับคนที่อยากทานเจ้าไข่ดำเพื่อเพิ่มอายุขัยให้กับตนเองตามความเชื่อ ก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าทางด้านล่างในราคา 1 ถุง 500 เยน (5 ฟอง) เท่านั้น!! เพราะที่นั่นไม่มีบริการให้นักท่องเที่ยวนำไข่ลงไปจุ่มเอง… นอกจากไข่ดำที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่แล้ว ก็มีขนมธรรมดาชนิดต่างๆที่ไม่ธรรมดา เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกทำออกมาให้เป็นสีดำหรือเน้นไปที่ไข่ดำทั้งหมด ไม่ว่าโมจิ ขนมไข่ ช็อกโกแลต หรือแม้กระทั่งถั่วต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นก็มีของที่ระลึกเช่น พวงกุญแจ ตู้ไขไข่ เครื่องใช้ต่างๆที่อิงกับเรื่องของไข่ดำ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่

วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วัดอาซากุสะ



ศาลเจ้าพ่อ ฟูชิมิ อินาริ

         ศาลเจ้า ฟูชิมิ อินาริ ถ้าลองไปดูในเอกสาร หรือสื่อที่โปรโมทการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น หลายครั้งคงจะเห็น ประตูโทริอิ (Torii) สีแดงสด เรียงรายกันเป็นอุโมงค์ ทอดยาวขึ้นไปในหุบเขา และที่นี่ก็เป็นจุดหมายปลายทางหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวที่มาญี่ปุ่นส่วนมาก ต้องเข้ามาแวะเวียนเยี่ยมชม


           ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ตั้งอยู่ในจังหวัดเกียวโต อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดเกียวโต ในเขตควบคุมของเทศบาลฟูชิมิ และเป็นหนึ่งในศาลเจ้าสำคัญของศาสนาชินโต ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ หรือ เทพเจ้าอินารินั่นเอง เทพเจ้าอินาริยังได้รับการยกย่อง เป็นเทพเจ้าแห่งข้าว ชา และสาเกอีกด้วย บางตำนานก็ว่าเทพอินาริเป็นชาย บางตำนานก็ว่าเทพอินาริเป็นหญิง แล้วแต่ตำนานท้องถิ่นที่ปรากฏ นอกจากนั้นเทพอินาริยังมีชื่อ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เทพอินาริ โอคามิ (Inari Okami) หรือเทพเจ้าแห่งจิ้งจอก
จะสังเกตได้ว่า เวลาที่เราไปที่ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ เราจะเห็น รูปปั้นสุนัขจิ้งจอกเป็นสัญลักษณ์ ของการบูชาเทพอินาริ ถ้าอยากบูชาเทพเจ้าอินาริ ผู้คนก็จะนำ ข้าวหรือสาเก มาวางที่รูปปั้นสุนัขจิ้งจอก เพราะสุนัขจิ้งจอกเหล่านี้ เป็นผู้ส่งสารไปให้เทพเจ้าอินารินั่นเอง (Kitsune Messenger) บางศาลเจ้าที่บูชาเทพเจ้าอินาริ ยังเป็นที่อยู่ของสุนัขจิ้งจอก ที่ยังมีชีวิตอยู่จริงอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ ศาลเจ้า ฟูชิมิ อินาริ ไม่ได้มีให้เห็นสุนัขจิ้งจอกที่ยังมีชีวิต

ประตูโทริอิ ที่สร้างนั้นส่วนมากได้รับการบริจาค จากหลายๆที่ด้วยกันเช่น เศรษฐี เจ้าเมือง พ่อค้า แม้แต่ปัจจุบัน มีหลายบริษัทที่บริจาคประตูโทริอิ ให้แก่ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ จึงทำให้มี ประตูโทริอิเรียงรายกันมากมาย เฉพาะที่อินาริ ความยาวมากกว่า 4 กิโลเมตร

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
http://www.iam-tour.com/